ข่าวกีฬา พรีเมียร์ลีก แมตช์เดย์ที่ 35
ในส่วนของ แมนเชสเตอร์ ซิตี้ มีสิทธิ์การันตีแชมป์ลีกทันทีหากเอาชนะ เชลซี ได้ ส่วน เวสต์บรอมวิช ก็อาจตกชั้นหากแพ้ที่ เอมิเรตส์ สเตเดี้ยม ขณะที่คู่อื่นๆ จะมีอะไรน่าสนใจบ้าง ไปดูกันได้เลย
“เลสเตอร์-นิวคาสเซิ่ล”
เลสเตอร์ ซิตี้ เอาชนะ นิวคาสเซิ่ล ยูไนเต็ด ได้ทั้งหมด 8 จาก 10 นัดที่เจอกันในศึก พรีเมียร์ลีก (แพ้ 2)
เจมส์ แมดดิสัน มิดฟิลด์ตัวกลั่นของ “เดอะ ฟ็อกซ์” ทำประตูได้ตลอด 3 เกมที่เจอกับ “สาลิกาดง”
นิวคาสเซิ่ล เอาชนะเกมในคืนวันศุกร์มาได้ 3 จาก 6 เกมหลังสุด(เสมอ 1 แพ้ 2) โดยก่อนหน้านั้น 8 เกมพวกเขาเอาชนะได้แค่ครั้งเดียวเท่านั้น(เสมอ 2 แพ้ 5)
โจ วิลล็อค กองหน้าตัวยืมของ “เดอะ แม็กพายส์” ทำประตูได้ตลอด 3 เกมหลังที่ได้ลงสนาม โดยประตูทั้งหมดเป็นการทำให้ทีมได้แต้มจากทีมที่อยู่ใน 7 อันดับแรกของตาราง
“ลีดส์-สเปอร์ส”
ลีดส์ ยูไนเต็ด มีสิทธิ์เป็นทีมแรกที่ไม่แพ้ในบ้านต่อ อาร์เซน่อล, เชลซี, ลิเวอร์พูล, แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด, แมนเชสเตอร์ ซิตี้ และ ท็อตแน่ม ฮ็อตสเปอร์ ใน พรีเมียร์ลีก นับตั้งแต่ที่ เวสต์แฮม ยูไนเต็ด เคยทำได้เมื่อฤดูกาล 2015/16
“ยูงทอง” คือทีมที่ทำประตูจากนอกกรอบได้ 24% ซึ่งเป็นตัวเลขที่สูงสุดในฤดูกาลนี้
ไรอัน เมสัน กุนซือคนหนุ่ม เป็นผู้จัดการทีมคนที่ 4 ของ “ไก่เดือยทอง” ที่เอาชนะได้ในการคุมทัพ 2 เกมแรกในศึก พรีเมียร์ลีก ต่อจาก เกล็น ฮอดเดิ้ล, เมาริซิโอ โปเช็ตติโน่ และ โชเซ่ มูรินโญ่ อย่างไรก็ตาม ทั้งหมดกลับมาแพ้ในเกมที่ 3 ซึ่งนั่นหมายความว่าไม่มีผู้จัดการทีม สเปอร์ส คนไหนที่สามารถเก็บชัยชนะ 3 เกมแรกบนเวทีลีกสูงสุ อังกฤษ ได้เลย
แกเร็ธ เบล ต้องการอีกประตูเดียวจะทำให้เขาเป็นผู้เล่นที่ทำประตูได้แตะหลักสิบประตูในพรีเมียร์ลีก ซึ่งจะเป็นช่วงเวลานานมากที่สุดที่ผู้เล่นคนหนึ่งกลับมายิงระดับเลขสองหลักได้อีกครั้ง(8 ฤดูกาล)